简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ: สภาอิสลามแห่งชาติของอินโดนีเซีย(เอ็มยูไอ)ชี้แจงชาวอินโดนีเซีย เพื่อสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีว่าภายใต้กฏหมายอิสลามไม่อนุญาติให้ทำการซื้อขายสกุลเงินคริปโท
ด้วยเหตุผลที่ว่าคริปโทเคอร์เรนซีไม่มีเสถียรภาพ และอาจนำไปสู่ความสูญเสียอย่างมหาศาลในข้อปฏิบัติต่างๆตามกฏหมายอิสลาม ซึ่งคำประกาศนี้มีขึ้นในช่วงที่การค้าเงินคริปโทในอินโดนีเซียเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้
“แอสโรรัน นิอัม”เลขาธิการคณะกรรมการเอ็มยูไอ ซึ่งรับผิดชอบในการออก“ฟัตวา”หรือกฤษฎีกาทางศาสนา กล่าวว่า คริปโทเคอร์เรนซีเป็นสิ่งต้องห้าม ไม่ได้รับอนุญาติให้มีการซื้อขายภายใต้ศาสนาอิสลาม เป็นสกุลเงินที่มีองค์ประกอบของความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดความสูญเสียสินทรัพย์ประเภทต่างๆที่ได้รับการสนับสนุนโดยบล็อกเชนซึ่งการตัดสินใจประกาศเพื่อสร้างความชัดเจนในเรื่องนี้สอดคล้องตามหลักกฏหมายอินโดนีเซียที่ให้การรับรองสกุลเงินรูเปี๊ยะห์ว่าเป็นเงินสกุลเดียวที่สามารถซื้อขายได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย
เลขาธิการคณะกรรมการเอ็มยูไอ ระบุว่า ชาวมุสลิมสามารถเทรดคริปโทเคอร์เรนซีในฐานะเป็นโภคภัณฑ์ประเภทหนึ่งได้ถ้าสามารถแสดงให้เห็นว่าการซื้อขายเงินประเภทนี้ได้ประโยชน์และสอดคล้องกับกฏหมายชาริอะห์ รวมถึง การถือครองสินทรัพย์ที่สอดคล้องกับการสอนของศาสนาอิสลาม โดยสินทรัพย์ที่ได้รับอนุญาติคือทองคำ (Gold)และเงิน (Silver)
คำประกาศเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีของเอ็มยูไอแก่ประชาชนชาวอินโดนีเซียที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามเกือบ 90% มีขึ้นในช่วงที่การเทรดเงินคริปโทในอินโดนีเซียเติบโตอย่างมาก
ข้อมูลของกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย ระบุว่า นับจนถึงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา มีเทรดเดอร์ที่ซื้อขายเงินประเภทนี้ในอินโดนีเซียมากถึง 9.73 ล้านคน และมูลค่าการซื้อขายก็มากถึง 717.5 ล้านล้านรูเปี๊ยะห์ เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 65 ล้านล้านรูเปี๊ยะห์ของปีที่แล้วตลอดทั้งปี
เอ็มยูไอมีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะอนุญาติให้ชาวมุสลิมในอินโดนีเซียทำอะไรได้ภายใต้กฏหมายอิสลามและขณะที่ฟัตวาไม่มีผลผูกพันทางกฏหมายแต่คำประกาศนี้มีผลกระทบต่อชาวอินโดนีเซียแม้ว่าหลักการของฟัตวาจะสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนเทคโนโลยีคริปโท
จาร์กาตา วางแผนที่จะเปิดตลาดซื้อขายเงินคริปโทล่วงหน้า ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซีย กำลังพิจารณาเปิดตัวรูเปี๊ยะห์ดิจิทัล(ซีบีดีซี) โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชน
“หากว่าธนาคารกลางอินโดนีเซียต้องการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนก็เป็นเรื่องโชคร้าย เพราะสิ่งนี้จะถูกมองว่าเป็นของต้องห้ามภายใต้ฟัตวาของเอ็มยูไอ เพราะภายใต้ฟัตวา คริปโทหรือโทเคนบล็อกเชนไม่สามารถนำมาใช้เป็นเงินเพื่อทำธุรกรรมได้ อาจจะต้องมีการเจรจาระหว่างธนาคารกลางของอินโดนีเซียและเอ็มยูไอเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ”ออสการ์ ดาร์มาวาน ผู้ก่อตั้งอินโดแด็กซ์ บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโท ในอินโดนีเซีย กล่าว
ดาร์มาวาน กล่าวเพิ่มเติมว่า บรรดานักลงทุนคริปโทในอินโดนีเซียยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใดๆเพื่อให้สอดรับกับฟัตวาที่ประกาศออกมา เพราะในอินโดนีเซีย คริปโทถูกนำมาใช้เป็นแค่สินทรัพย์หรือโภคภัณฑ์เท่านั้น เพราะฉะนั้นฟัตวาที่ออกมาจะไม่ส่งผลกระทบมากนักเพราะไม่มีใครมองว่าคริปโทเป็นสกุลเงิน พวกเขามองเป็นแหล่งสร้างรายได้จากการลงทุน
ด้านเทรดเดอร์คริปโทเคอร์เรนซีชาวมุสลิมคนหนึ่ง กล่าวกับนิกเคอิ เอเชียว่า “ผมไม่แคร์ฟัตวามากนักเพราะการซื้อขายหุ้นที่เหมือนกับการพนันมากยังได้รับอนุญาติภายใต้กฏหมายมุสลิม และตราบใดที่ตลาดหุ้นยังไม่ปิด ผมจะเดินหน้าลงทุนในคริปโทต่อไป”
ขณะที่เอ็มยูไอออกประกาศเรื่องคริปโทเคอร์เรนซี “โทนี ริชาร์ดส์” หัวหน้าฝ่ายนโยบายการชำระเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย (อาร์บีเอ) ก็ระบุว่า อาร์บีเอ ตัดสินใจทำการวิจัยเพิ่มเกี่ยวกับซีบีดีซี เช่นเดียวกับธนาคารกลางสำคัญแห่งอื่น ๆ แม้ยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับข้อดีของการออกสกุลเงินนี้
ริชาร์ด แสดงความเห็นดังกล่าวในที่ประชุมด้านการบริการทางการเงิน หลังจากที่วุฒิสภาออสเตรเลียออกรายงานเมื่อเดือนที่แล้วเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องมากขึ้นกับการออกสกุลเงินดิจิทัล
ริชาร์ดส์ ระบุว่า ขณะนี้ประเทศเศรษฐกิจสำคัญส่วนใหญ่กำลังพิจารณาว่าจะออกสกุลเงินซีบีดีซีหรือไม่ ซึ่งเงินประเภทนี้เทียบเท่ากับเงินสดบนอินเทอร์เน็ต และต่างไปจากเงินคริปโทเคอร์เรนซีเพราะไม่ได้มีการกระจายจากศูนย์กลาง
แต่ริชาร์ดส์ ก็บอกว่า เมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ว่าดุลยภาพดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงไปสู่การออกสกุลเงินซีบีดีซี สำหรับธุรกรรมรายย่อยของภาคธุรกิจและประชาชน ดังนั้นอาร์บีเอจึงตัดสินใจทำการวิจัยในด้านซีบีดีซีเพิ่ม
ริชาร์ด บอกด้วยว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และสวีเดนเป็นประเทศที่มีความคืบหน้ามากที่สุดในการพิจารณาบทบาทสำหรับ ซีบีดีซี ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงมีความระมัดระวังมากกว่า
“จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของอาร์บีเอก็ยังไม่มั่นใจเช่นกันว่า มีนโยบายสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งสำหรับซีบีดีซีในออสเตรเลียหรือไม่” ริชาร์ดส์ กล่าว
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
TMGM
GO MARKETS
FBS
FXTM
FP Markets
XM
TMGM
GO MARKETS
FBS
FXTM
FP Markets
XM
TMGM
GO MARKETS
FBS
FXTM
FP Markets
XM
TMGM
GO MARKETS
FBS
FXTM
FP Markets
XM