简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ถ้าเป็นหุ้น ก็อาจจะลอกการบ้านเซียนชื่อดัง เช่นเดียวกัน ถ้าเป็นคริปโทเราก็จะพาไปสืบจากเหล่ากูรูในวงการว่า เหรียญไหนพอจะมีศักยภาพในระยะยาวบ้าง
Crypto by efinanceThai รวบรวมมาให้คุณที่นี่แล้ว โดยใช้วิธีการสอบถามจากมุมมองของเหล่าผู้มีประสบการณ์ และศึกษาเรื่องคริปโทเคอร์เรนซีมาเป็นระยะเวลาหลายปี ด้วยคำถามที่ว่า “ถ้าให้เลือก 5 เหรียญที่เหมาะจะลงทุนในระยะยาวมีตัวไหนที่มีศักยภาพบ้าง เพราะอะไร” แต่ต้องขอย้ำก่อนว่านี่คือความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น! ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่พวกเขาเลือกคือสิ่งที่ถูก
ดังนั้น บทความนี้เราขอทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ อย่าลืมศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมในแต่ละเหรียญ เราหวังว่าอย่างน้อยที่สุด นี่คือจุดเริ่มต้น ให้มือใหม่หรือมือเก่าได้นำไปต่อยอดการศึกษา และค้นคว้าแทนที่จะเสียเวลาไปค้นทั้ง 12,000 เหรียญ แต่เราจะช่วยย่นเวลาให้คุณ ไม่ต้องไปงมเข็มในมหาสมุทร รวมออกมาได้ทั้งหมด 15 เหรียญ ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลย
1.Bitcoin (BTC)
2.Ethereum (ETH)
3.Binance Coin (BNB)
4.Solana (SOL)
5.Terra (LUNA)
6.Uniswap (UNI)
7.MakerDAO (MKR)
8.Firo (FIRO)
9.Monero (XMR)
10.Polkadot (DOT)
11.Algorand (ALGO)
12.FTX Token (FTT)
13.Avalanche (AVAX)
14.Alpha Finance (ALPHA)
15.Sushiswap (SUSHI)
*** “Kim DeFi Daddy” เจ้าพ่อฟูลไทม์ดีฟายฟาร์มเมอร์ไม่น่าเชื่อว่าต่อให้ค่าแก๊สแพงแค่ไหนแต่ในใจเขายังมี “Ethereum”
“คิม” กานต์นิธิ ทองธนากุล เจ้าพ่อ DeFi ในไทยที่สาวกสายฟาร์มรู้จักกันเป็นอย่างดี หลายคนอาจไม่ทราบว่านอกจากเขาจะเป็นนักลงทุน DeFi แบบเต็มเวลาแล้ว เขายังเป็นหนึ่งในทีมบริหารของบริษัท Merkle Capital ซึ่งบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับลูกค้า ปัจจุบันมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารถึง 700 ล้านบาท!
เมื่อเราถามถึงมุมของการลงทุนระยะยาวในเหรียญดิจิทัล ส่วนตัวของ “คิม” ไม่พลาดที่จะเลือก 2 เหรียญหลักอย่าง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) เพราะ “Bitcoin” เป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ของโลก ถูกเปรียบให้เหมือนกับทองคำดิจิทัลไปแล้ว มีสภาพคล่อง และได้รับการลงทุนจากบริษัทต่างประเทศมากมาย
ส่วน Ethereum เป็นเหรียญที่ให้กำเนิดโครงการ DeFi ชื่อดังของโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Uniswap,Compound ล้วนเกิดขึ้นมาได้เพราะเหรียญนี้ หากเราเชื่อมั่นว่า DeFi คืออนาคตของโลกการเงิน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ถือ ETH
เขายังชอบอีก 3 เหรียญคือ Binance Coin (BNB) เพราะเป็นเหรียญของเว็บเทรดอันดับ 1 ของโลกอย่าง Binance ที่มีคุณสมบัติมากกว่าการลดค่าธรรมเนียมเทรด แต่ยังเป็นเหรียญ Native สำหรับเครือข่าย Binance Smart Chain ใช้สำหรับลงทุนบนโลก DeFi ได้อีกด้วย
Solana (SOL) เหรียญบล็อกเชน Layer1 อีกตัวที่น่าสนใจ ได้รับการสนับสนุนจาก Sam Bankman-Fried เจ้าของเว็บเทรดระดับโลกอย่าง FTX ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มมากมายถูกพัฒนาบน Solana และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ
Terra (LUNA) ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นเหรียญบล็อกเชนของ stable coin ชื่อดังอย่าง UST ที่ใช้ระบบ Algorithmic Stablecoin แล้วประสบความสำเร็จเป็นตัวแรกๆ ได้รับการสนับสนุนจากทางการของเกาหลีใต้ มีฐานผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
*** “ต้นฮ้อ” นักพัฒนาชื่อดังชาวไทยผู้ส่งชอบส่งซิกเหรียญแห่งอนาคตที่เขาทำการค้นคว้ามาอย่างเงียบๆวันนี้เขาเผย 5 เหรียญที่น่าสนใจโดยเฉพาะพวกตัวเล็กๆที่คุณ “อาจไม่เคยรู้จักมาก่อน”
“ต้นฮ้อ” พลากร ยอดชมญาณ นักพัฒนาชื่อดังชาวไทย ซึ่งศึกษาและลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีมาหลายปีและชื่นชอบการค้นหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ชนิดที่เรียกว่ามักจะเป็น “ผู้มาก่อนกาล” ส่วนตัวเขาแบ่งการลงทุนออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.ลงทุนตัวหลัก 2.ลงทุนตัวรอง และ 3.ลงทุนตัวเล็กที่มีโอกาสเติบโตสูง
“ตัวหลักผมเลือก Bitcoin กับ Ethereum ผมคิดว่าเราควรมีตัวหลักอย่างน้อยก็ 2 ตัวนี้ติดพอร์ตไว้เพราะได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้ชนะ และมีศักยภาพสูงในการเติบโตได้ในระยะยาว ยิ่งในส่วนของ Ethereum ถ้าใครที่ได้เข้ามาในโลกของ DeFi ต้องมี Ethereum ติดไว้เป็นค่า gas (ค่าธรรมเนียม) เพื่อใช้งานอยู่แล้ว”
ตัวรองสำหรับเขาเลือก Uniswap (UNI) กับ MakerDAO (MKR) เพราะถือเป็นผู้นำในโลก DeFi โดย Uniswap เป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ที่สุด ส่วน MakerDAO เป็นเจ้าแรกที่ทำสกุลเงินที่เป็นกลาง (Unbiased currency) ไม่ขึ้นตรงกับรัฐหรือใครคนใดคนหนึ่ง ปัจจุบันทำสกุลเงินชื่อ DAI เป็นสกุลเงินเทียบมูลค่ากับเงินดอลลาร์
“ทั้งสองตัวเป็นผู้นำที่ถ้ามีคู่แข่งมาแข่งขันก็ไม่ง่ายที่จะเอาชนะ และที่สำคัญกองทุน DeFi ระดับโลกอย่าง Grayscale Investments ก็ลงทุนสองตัวนี้ด้วย”
ส่วนตัวเล็กที่มีโอกาสเติบโตสูงในลิสต์ของ “ต้นฮ้อ” มีอยู่หลายตัวเพราะเขาใช้ใช้วิธีลงทุนเฉลี่ย โดยมีหลักการในการคัดเลือกจาก ศักยภาพของทีมงานเหนือกว่าทีมอื่นหรือไม่ สิ่งที่ทำแตกต่างจากสิ่งที่โลก DeFi ยังไม่เคยมีไหม เพราะหากจะโดดเด่นในโลกของเทคโนโลยีได้สิ่งที่ทำต้องเป็น Deep Tech ถึงจะชนะ และเติบโตเป็นผู้นำในโลก DeFi ต่อไปได้ในอนาคต ตัวเล็กใช้การลงทุนเฉลี่ย เขาจึงมีในลิสต์ที่สนใจหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Warden (WAD), Lyra (lyra.finance), MCDEX (MCB) และ GMX (GMX)
*** “ซันเจย์” ซีอีโอคริปโตมายด์เปิด 5 เหรียญที่น่าสนใจมีทั้งสายบล็อกเชนและ DeFi มีสายพันธุ์ไทยอย่าง Alpha Finance (ALPHA) ติดโผด้วย
“ซันเจย์” สัญชัย ปอปลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำระดับประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลมาอย่างยาวนาน และเป็นอีกกำลังสำคัญในการผลักดันวงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ทั้งการบรรยายสาธารณะ และการเขียนบทความให้ความรู้ผู้คนผ่านสื่อต่างๆ ไปดูกันว่า 5 เหรียญที่เลือกมานั้นมีอะไร
มีเหรียญสายบล็อกเชนถูกเลือกมา 2 เหรียญคือ Avalanche (AVAX) ซึ่งเป็นบล็อกเชน Layer 1 ที่มีเทคโนโลยี ‘EVM compatible’ ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ DeFi หรือ NFT ได้โดยไร้ซึ่งข้อจำกัดเรื่องประสิทธิภาพที่ Ethereum มี อย่างค่าธรรมธุรกรรมที่สูง รวมไปถึงได้รับการสนับสนุนจากผู้ลงทุนรายใหญ่ในจักรวาลคริปโทอย่าง Three Arrows Capital อีกด้วย และ
Solana (SOL) อีกหนึ่งบล็อกเชน Layer 1 ที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ DeFi และ NFT ได้เช่นกัน โดยที่ไม่ต้องเจอกับข้อจำกัดเรื่องประสิทธิภาพที่ Ethereum กำลังพบ ถึงแม้ว่า Solana จะไม่ได้เป็นแบบ ‘EVM compatible’ ก็ตาม แต่มันก็มีประสิทธิภาพที่สูง และได้รับการหนุนหลังจาก Alameda Research และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนยักษ์ใหญ่อย่าง FTX
ตามด้วยอีก 3 เหรียญ ได้แก่ FTX Token (FTT) เหรียญของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทชื่อดังอย่าง ‘FTX’ โดย FTX ได้มีการเติบโตขึ้นมาหลายเท่าตัวในด้านของปริมาณการซื้อขาย รวมไปถึงมันยังเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นจากการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีชื่อเสียงต่างๆ มากมายอย่างเช่น Tom Brady, Steph Curry หรือ Kevin OLeary แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าแพลตฟอร์มจะมีการเติบโตอย่างมหาศาล (อย่างหลาย Altcoin ใน FTX ตอนนี้มีการเปิดสัญญาคงค้างไว้มากกว่า Binance แล้ว) แต่มูลค่าทางการตลาดก็ยังน้อยกว่า BNB เหรียญของแพลตฟอร์ม Binance อยู่หลายเท่าตัว
Alpha Finance (ALPHA) ที่เพิ่งจะถูกรีแบรนด์ไปเป็น ‘Alpha Metaverse’ โดยมันเองมีหลายหลายฟีเจอร์น่าสนใจที่ทำให้ Alpha token น่าลงทุน พร้อมทั้ง Tokenomics หรือเศรษฐศาสตร์ของเหรียญที่ดีเยี่ยม ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถ Stake เหรียญ Alpha ไว้บน Launchpad ของ Alpha Metaverse ได้ รวมไปถึงยังได้รับการหนุนหลังจากผู้ลงทุนระดับแนวหน้าอย่าง DeFiance Capital และ Multicoin Capital และ
Sushiswap (SUSHI) จากการมาของ Avalanche และ Solana มันก็เป็นที่ชันเจนแล้วว่าอนาคตของอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีนั้นเป็นไปได้สูงว่าจะเข้าไปสู่การเป็น Multichain (การใช้งานแบบข้ามบล็อกเชน) ดังนั้น แพลตฟอร์มสำหรับการแลกเปลี่ยนเหรียญข้ามบล็อกเชนอย่าง SushiSwap ก็ดูเหมือนจะได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ รวมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆ อย่าง Shoyu ที่ทำหน้าที่เป็นตลาดซื้อขาย NFT พร้อมกับดูเหมือนว่าจะเข้ามาสู้กับตลาดยักษ์ใหญ่อย่าง OpenSea อีกด้วย
ยังไม่หมดๆขอปิดท้ายด้วยนักพัฒนาชื่อดังระดับโลกชาวไทยสุดอินดี้อย่าง “หนึ่ง” ปรมินทร์อินโสมผู้พัฒนาหลักเหรียญ FIRO เล่าถึงมุมมองส่วนตัวถ้าให้เลือก 5 เหรียญที่มีศักยภาพและเหมาะจะลงทุนในระยะยาวแน่นอนเขาต้องเลือก Firo (FIRO) ส่วนอีก 4 เหรียญที่น่าสนใจในความเห็นของเขาคือ “Monero(XMR), Polkadot(DOT), Bitcoin(BTC) และ Algorand (ALGO)”
------------------------------
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ขอขอบคุณบทความจากคุณ ชัชชญา อังคุลี และเว็บไซต์ efinancethai.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Vantage
Pepperstone
IC Markets Global
OANDA
ATFX
FXTM
Vantage
Pepperstone
IC Markets Global
OANDA
ATFX
FXTM
Vantage
Pepperstone
IC Markets Global
OANDA
ATFX
FXTM
Vantage
Pepperstone
IC Markets Global
OANDA
ATFX
FXTM