简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เมื่อวานนี้สื่อข่าวหลายสำนักได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับกรณีที่ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้
เมื่อวานนี้สื่อข่าวหลายสำนักได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับกรณีที่ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนจากการถูกดูดเงินและการหักเงินในบัญชีบัตรเครดิตและบัตรเดบิตทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำธุรกรรมใด ๆ โดยส่วนใหญ่พบว่ามีการถูกตัดเงินในบัญชีพร้อมกับข้อความที่แจ้งว่า “Purchase via EDC” แน่นอนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้ผู้ใช้บัญชีธนาคารชาวไทยเกิดความหวาดผวา พร้อมแสดงความกังวลว่าแม้เงินของตนจะอยู่ในธนาคาร แต่ก็ยังสามารถถูกขโมยได้อยู่ดี ถือว่าไม่มีการรับประกันความปลอดภัยใด ๆ ในขณะที่ชุมชนคริปโตชาวไทยก็ได้มีการออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้เช่นกัน โดยตั้งข้อสังเกตว่า การเก็บเงินไว้ในคริปโตอาจจะเป็นทางออกให้กับเรื่องนี้ได้ เงินในบัญชีธนาคารเป็นของคุณหรือเปล่า แม้ทุกวันนี้เราจะฝากเงินอยู่ในธนาคาร แต่คำถามก็คือเงินที่คุณพักอยู่ในธนาคารนั้นเป็นของคุณจริงๆหรือเปล่า หลายคนคงสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอนว่า การที่ฝากเงินไว้ในธนาคารส่วนนึงเป็นเพราะเราไม่มั่นใจในการเก็บออมเงินด้วยตัวเอง เพราะมันอาจจะถูกขโมยได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นขโมยขึ้นบ้านเป็นต้น แต่เมื่อคุณเอาเงินไปฝากธนาคารที่มีการรับรองทางด้านกฎหมาย แน่นอนล่ะในทางทฤษฎีมันอาจจะเป็นของคุณจริง แต่หากเราลองคิดดูดีดีในเชิงกลับกันมันเป็นของคุณจริง ๆ หรือเปล่า จากกรณีที่กล่าวไปข้างต้นทำให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนเลยว่า เงินของเราที่อยู่ในธนาคารอาจจะไม่ใช่เงินของเราจริงๆ เพราะการที่คุณเอาเงินไปฝากกับตัวกลางใดมันมีโอกาสที่สูญเสียไปได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกฎหมายที่สามารถยึดทรัพย์สินของคุณได้ทุกเมื่อ หรือในกรณีของ Bank Run ที่มีคนมาแห่ถอนเงินพร้อมกัน จนคุณไม่สามารถถอนเงินของคุณได้ รวมถึงเสี่ยงอื่น ๆ อีกมากมาย หรือ Crypto จะเป็นคำตอบสุดท้ายในการเก็บเงิน หลังจากที่เราได้พิจารณาถึงเรื่องนี้แล้ว ทำให้หลายคนเริ่มมองว่าคริปโตนั้นอาจจะเป็นคำตอบสุดท้ายในการเก็บออมเงินของเราแทนการเก็บเงินไว้กับธนาคาร เนื่องจากในโลกของคริปโตนั้นจะเปิดโอกาสให้คุณสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ด้วยตัวเองผ่านการเก็บรักษาเงินของคุณในกระเป๋าเงินคริปโตที่คุณเป็นคนถือ Private key ด้วยตัวเอง ต่างจากการฝากทรัพย์สินหรือเงินไว้กับธนาคารที่มีความเสี่ยงที่เงินของคุณจะสูญหาย อย่างไรก็ตามผู้ถือ Private key ของตัวเองก็ต้องระมัดระวังพิเศษ เนื่องจากการที่เราเป็นผู้ดูแลสินทรัพย์ของเราเองก็เท่ากับว่าจะไม่มีใครที่ช่วยดูแลสินทรัพย์ของเราได้ ดังนั้นหากเราทำ Private key สูญหายไป นั้นความหมายเงินของเราเองก็อาจสูญหายไปตลอดกาลเช่นเดียวกัน กูรู Bitcoin ชื่อดังในไทยเผยถึงต้นตอของปัญหาในระบบการเงินแบบดั้งเดิม เมื่อเร็ว ๆ นี้กูรู Bitcoin ชื่อดังในไทยและ Managing Director แห่ง Chaloke.com “อาจารย์ตั้ม พิริยะ สัมพันธารักษ์” ก็แสดงออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ด้วย โดยกล่าวว่า “ต้นตอของปัญหาในระบบการเงินโดยทั่วไปอยู่ที่ความจำเป็นต้องอาศัยความเชื่อใจ เราจำเป็นต้องเชื่อใจว่า ธนาคารกลางจะไม่บั่นทอนมูลค่าของสกุลเงิน แต่ประวัติศาสตร์ของเงินตรารัฐบาลกลับเต็มไปด้วยการล่วงละเมิดความเชื่อใจดังกล่าว” “เราจำเป็นต้องเชื่อใจว่าธนาคารจะเก็บเงินของเราเอาไว้ และคอยทำหน้าที่รับส่งเงินของเราผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่พวกเขากลับนำมันไปปล่อยกู้จนเกิดเป็นคลื่นของฟองสบู่สินเชื่อโดยแทบไม่เหลือเงินเก็บไว้เลยด้วยซ้ำ” “เราจำเป็นต้องเชื่อใจว่าพวกเขาจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของพวกเรา เชื่อใจว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้มิจฉาชีพทำการสวมรอยขโมยเงินของเราจนหมดบัญชีได้” จากคำพูดของอาจารย์ตั้มข้างต้น สามาถสรุปได้ว่า ระบบการเงินในปัจจุบันนั้นขึ้นอยู่กับความไว้ใจและความปลอดภัย ซึ่งดูเหมือนว่า Bitcoin และสินทรัพย์คริปโตจะถูกสร้างขึ้นเพื่อเติมเต็มสิ่งเหล่านั้น
กดอ่านข่าว คนไทยโดนแฮก เงินหาย หรือ Crypto จะเป็นคำตอบสุดท้ายในการเก็บเงิน ? ต่อที่ Siam Blockchain
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
GO MARKETS
HFM
XM
FP Markets
OANDA
EC Markets
GO MARKETS
HFM
XM
FP Markets
OANDA
EC Markets
GO MARKETS
HFM
XM
FP Markets
OANDA
EC Markets
GO MARKETS
HFM
XM
FP Markets
OANDA
EC Markets