简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:นับตั้งแต่ปีแรกที่บิทคอยน์เกิดขึ้น รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวประกาศแบนต่าง ๆ นานา โดยอ้างถึงความเสี่ยงมากมายที่จะเกิดขึ้น กว่า 10 ปีที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ปีแรกที่บิทคอยน์เกิดขึ้น รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวประกาศแบนต่าง ๆ นานา โดยอ้างถึงความเสี่ยงมากมายที่จะเกิดขึ้น กว่า 10 ปีที่ผ่านมา รัฐจีนได้ส่งสัญญาณ FUD (ความกลัว ความไม่แน่นอน และความสงสัย) ในอุตสาหกรรมนี้นับครั้งไม่ถ้วน และหลาย ๆ ครั้งก็ส่งผลต่อราคาของบิทคอยน์ เช่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาของบิทคอยน์ลดลงมากกว่า 5% ในไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากการย้ำกฎระเบียบ ประกาศแบน สกุลเงินดิจิทัลในจีน
Timeline การแบนบิทคอยน์ในจีน
มิถุนายน 2009: ประกาศแบนสกุลเงินดิจิทัล
เพียงไม่กี่เดือนหลังจากเปิดตัวบิทคอยน์ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงวัฒนธรรมของจีนได้สั่งห้ามการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการชำระเงินค่าสินค้าและบริการในโลกความเป็นจริง
ธันวาคม 2013: สั่งธนาคารแบน Bitcoin
ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนและกระทรวงไอที สั่งไม่ให้ธนาคารเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรม Bitcoin แต่ที่ผู้คนยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อขาย Bitcoin ได้
กันยายน 2017: สั่งปิด Exchange
จีนเรียกร้องให้ปิดบริษัทผู้ให้บริการการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในท้องถิ่น โดยอ้างถึงปัญหาการฟอกเงิน การค้ายาเสพติด และการลักลอบนำเข้า เป็นผลให้เทรดเดอร์ย้ายไปแลกเปลี่ยนในต่างประเทศผ่าน VPN
พฤษภาคม 2021: เกตเวย์การชำระเงินถูกแบน
ทางการประกาศแบนสถาบันการเงิน และเกตเวย์การชำระเงินจากการเสนอบริการที่เกี่ยวข้องกับคริปโต และเตือนไม่ให้มีการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแบบเก็งกำไร
มิถุนายน 2021: ปราบปรามการขุดบิทคอยน์
รัฐบาลพยายามยุติการขุด Bitcoin ในจังหวัดเสฉวน และในมองโกเลีย โดยอ้างถึงมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรมากเกินไปเป็นเหตุผล
สิงหาคม-กันยายน 2021: ประกาศจะยุติธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์
ในเดือนสิงหาคม จีนไล่ตามผู้มีอิทธิพลในวงการคริปโต และรัฐบาลได้ปิดเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของศูนย์บล็อกเชนที่มีชื่อเสียงของประเทศ
เมื่อวันที่ 24 กันยายน ตลาดได้รับผลกระทบอีกครั้งเนื่องจาก ธนาคารประชาชนจีนคาดว่าจะประกาศว่า ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตทั้งหมดในประเทศนั้น ‘ผิดกฎหมาย’ ข่าวนี้สร้างความเสียหายให้บิทคอยน์ คิดเป็นมูลค่าที่ลดลงกว่า 5% ร่วงลงมาจากจุดสูงสุดในวันนั้นที่ 45,000 ดอลลาร์ มาเป็น 42,225 ดอลลาร์ บ่งบอกว่าแรงซื้อไปหดหายไปจากตลาดแล้ว
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ๆ ในการโจมตีบิทคอยน์ของจีน ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ยิบย่อยที่ให้เล่าเป็นเดือนก็ยังไม่หมด หลายคนคงสงสัยว่าจีนจะเกลียดบิทคอยน์อะไรนักหนา ทำไมต้องขนาดนี้?
1. จัดการเพื่อรักษาเสถียรภาพ
Bitcoin มีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลน่าจะเห็นว่าหากปล่อยให้มีเสรีภาพในการทำเหมืองขุด Bitcoin อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในอนาคตได้ การที่รัฐบาลจีนระมัดระวังเรื่องการเติบโตอย่างผิดปกติของ Bitcoin และคริปโตสกุลอื่น ๆ อาจจะช่วยปกป้องไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศจีนได้รับผลกระทบมากนัก กรณีที่คริปโตเหล่านี้มีมูลค่าตกลงอย่างรวดเร็ว
2. คริปโตอาจกระทบต่ออำนาจอธิปไตยทางการเงินของรัฐบาลจีน
นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าสาเหตุแท้จริงที่จีนจำเป็นต้องแบนคริปโต เพราะความกังวลในเรื่องของอำนาจอธิปไตยทางการเงินของรัฐบาล ปกติแล้วเงินหยวนจีนจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลแทบทั้งหมด ทำให้รัฐสามารถควบคุมทิศทางของการเงินในจีนได้ แต่เมื่อเงินคริปโตอย่าง Bitcoin ถือกำเนิดขึ้น สิ่งนี้จะไม่ใช้โลหะมีค่าและเครดิตของรัฐเป็นประกัน รัฐบาลจึงไม่สามารถควบคุมมูลค่าของเงินคริปโตได้เลย
3. คริปโตตรวจสอบไม่ได้
ประเทศจีนได้เปลี่ยนมาใช้หยวนดิจิทัล ซึ่งมันเป็นเงินหยวนที่เปลี่ยนจากรูปแบบกระดาษมาอยู่ในระบบดิจิทัล รัฐบาลจะสามารถควบคุมการทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น สามารถตรวจสอบบัญชีต่าง ๆ ได้ง่าย แต่เมื่อมีเงินคริปโตเข้ามา ประชาชนบางส่วนกลับเลือกใช้จ่ายเป็นเงินเหล่านี้แทน การกระทำเช่นนี้เท่ากับหลบหลีกการตรวจสอบธุรกรรมจากรัฐบาลได้ เพราะฉะนั้นการสั่งแบนจึงเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลมนั่นเอง
จีนถือเป็นประเทศที่มีผู้ถือครอง และผู้ขุดบิทคอยน์เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก การเคลื่อนไหวด้านนโยบายต่าง ๆ ของรัฐจึงเป็นข่าวสำคัญที่นักเทรดคริปโตต้องรู้ ใครไม่อยากพลาดเรื่องราวที่สนใจในตลาดคริปโตแบบนี้ เราขอแนะนำแอปพลิเคชัน ‘Wikibit’ แอปที่คุณสามารถใช้ตรวจสอบ ‘แอปเทรดคริปโต’ ‘เหรียญคริปโต’ และ ‘DeFi’ ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือ ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ และยังมีการอัปเดตข้อมูลข่าวสาร และรูปแบบกลโกงในวงการคริปโตไว้ให้คุณได้ศึกษาอีกด้วย ถือว่าครบจบในแอปเดียว โหลดเลย!!
แอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ มีฟีเจอร์โดนๆ สำหรับนักลงทุน อย่าง การตรวจสอบ Exchange และ Token เพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการลงทุนของคุณนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่คุณกดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้นตามที่ได้แจ้งข้อมูลกับทาง ก.ล.ต. เพื่อขอใบอนุญาต ถือว่าครบจบในแอปเดียว อย่ารอช้าโหลดเลย!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
HFM
TMGM
ATFX
FXTM
IQ Option
FP Markets
HFM
TMGM
ATFX
FXTM
IQ Option
FP Markets
HFM
TMGM
ATFX
FXTM
IQ Option
FP Markets
HFM
TMGM
ATFX
FXTM
IQ Option
FP Markets