S&P 500 ปิดลบ ตลาดเริ่มผันผวนอีกครั้ง

โดย Yasin Ebrahim

Investing.com – ดัชนี S&P 500 ปิดลบเมื่อวานนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทำให้ตลาดผันผวน

ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.8% มาที่ 4,321.81 แต่ต่ำสุดที่ 4,289.17 ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 0.8% หรือ 259 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.7% ขณะที่ S&P 500 VIX Futures หรือที่เรียกกันว่าดัชนีชี้วัดความกลัว เพิ่มขึ้น 17% เป็น 19.00

ความกลัวเรื่องการเติบโตที่ชะลอตัวเกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรเช่นกัน โดยผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.

แต่นักลงทุนบางส่วน ไม่ได้สนใจปัญหาเรื่อง “การเติบโต” และโต้แย้งว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไปได้ ซึ่งจะปูทางสำหรับกำไรที่เพิ่มขึ้นในหุ้น

“เราไม่คิดว่าตลาดกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเติบโตของกำไรที่ชะลอตัวจากระดับที่แข็งแกร่งเหล่านี้ อย่างน้อยก็ ณ จุดนี้” Wells Fargo (NYSE:WFC) ระบุ “เราชอบภาคส่วนที่อ่อนไหวทางเศรษฐกิจ เช่น พลังงาน อุตสาหกรรม วัสดุ และการเงิน”

นอกเหนือจากแรงหนุนจากความกลัวว่าการเติบโตจะชะลอตัว อุปทานพันธบัตรที่ลดลงยังมีบทบาทในการเพิ่มราคาพันธบัตร อันส่งผลให้ผลตอบแทนลดลง

กระทรวงการคลังมีเงินสดอยู่ที่ 733 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 6 กรกฎาคม และ “กำลังดำเนินการตามความคืบหน้าในการทำให้ยอดเงินสดลดลงเหลือเป้าหมาย 450 พันล้านดอลลาร์ในวันที่ 31 กรกฎาคมที่กำหนดโดยกฎหมายเพดานหนี้” Jefferies (NYSE: JEF) ระบุ “การใช้จ่ายเช่นนี้จะช่วยให้ระบบดำเนินต่อไปได้ แต่เรายังคงคาดว่าจะมีการปรับลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม”

จำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทั่วโลกและคุกคามฤดูร้อนแห่งการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป

ตลาดแรงงานยังคงมีแนวโน้มที่ไม่ค่อยดีในการฟื้นตัว จากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ที่เพิ่มขึ้นเป็น 371,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

เมื่อสวัสดิการว่างงานกำลังจะสิ้นสุดลง Morgan Stanley (NYSE:MS) คาดว่าจะมีคลื่นอุปทานที่พุ่งเข้าสู่ตลาดแรงงานซึ่งจะช่วยอุดช่องว่างในปัจจุบัน

“เรายังคงคาดหวังว่าอุปทานแรงงานจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงปลายฤดูร้อน เนื่องจากโครงการสวัสดิการเพิ่มเติมของรัฐบาลกำลังจะหมดอายุ” Morgan Stanley ระบุในหมายเหตุ

ความวุ่นวายเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยมักจะส่งผลดีต่อหุ้นเทคโนโลยี แต่บรรดาหุ้นเติบโตในตลาดก็ยังเจอแรงกดดันในการเทขาย

ราคาหุ้น Facebook (NASDAQ:FB), Alphabet (NASDAQ:GOOGL), Microsoft (NASDAQ:MSFT และ Apple (NASDAQ:) AAPL) ลดลง อย่างไรก็ตาม หุ้น Amazon.com (NASDAQ:AMZN) ยังคงปิดบวก

หุ้นธนาคารต่างรู้สึกเจ็บปวดจากอัตราดอกเบี้ยที่ดิ่งลง โดยหุ้น Bank of America (NYSE:BAC), Wells Fargo (NYSE:WFC) และ Goldman Sachs Group (NYSE:GS) ร่วงลงมากกว่า 2%

หุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อเงินคริปโต ก็ได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของ Bitcoin เนื่องจากนักลงทุนกำลังขยาดต่อความเสี่ยงในตลาดคริปโต

ราคาหุ้น Coinbase Global (NASDAQ:COIN), MicroStrategy (NASDAQ:MSTR) และ Square (NYSE: SQ) ต่างปิดตัวลดลง