简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:โดย Yasin Ebrahim Investing.com – ดัชนี S&P 500ทำสถิติอีกครั้งเมื่อวานนี้ โดยปิดท้ายครึ่งปีแรกด้วยกา
โดย Yasin Ebrahim
Investing.com – ดัชนี S&P 500ทำสถิติอีกครั้งเมื่อวานนี้ โดยปิดท้ายครึ่งปีแรกด้วยการบวกเพิ่มขึ้น หลังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า ตลาดจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อไปในช่วงที่เหลือของปีนี้
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.20% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,297.32 จุด โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% ในปีนี้ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.61% หรือ 210 จุด ส่วนดัชนีNASDAQ Composite ลดลง 0.17%
การจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 692,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 600,000 ตำแหน่ง เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
“งานภาคบริการมีความแข็งแกร่งมากจากรายงานของ ADP ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐ” จอห์น เรการ์ด ผู้จัดการพอร์ตอาวุโสของ Spouting Rock Asset Management กล่าวกับ Investing.com ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธ “สายการบินจ้างนักบินเพิ่มขึ้น อัตราการเข้าพักโรงแรมและอัตราค่าโรงแรมก็เพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดว่ามีผู้คนจำนวนมากขึ้นจะกลับมาทำงานภาคบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการเดินทางและการขนส่ง”
แม้ว่าตัวเลขที่แข็งแกร่งจาก ADP จะไม่สอดคล้องกับตัวเลขการจ้างงานประจำเดือน แต่บ่งบอกถึงแนวโน้มที่ดีสำหรับรายงานการจ้างงานในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะช่วยชดเชยตัวเลขที่อ่อนแอของเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า จะมีการจ้างงานเพิ่ม 600,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน.
หุ้นวัฏจักรพากันปรับตัวสูงขึ้น นำโดยกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นก่อนการประชุมโอเปกในวันนี้ โดยนักลงทุนกำลังเดิมพันว่าอุปสงค์ด้านพลังงานจะแซงหน้าอุปทานก่อนถึงฤดูการท่องเที่ยวในหน้าร้อนนี้
“อุปสงค์ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งโดยไม่คาดคิดเช่นนี้ จะทำให้ขาดแคลนน้ำมันถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปี” Commerzbank (DE: CBKG) ระบุในรายงาน
ขณะที่กลุ่มการเงินยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาหุ้นธนาคารรายใหญ่มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น
Goldman Sachs Group Inc (NYSE:GS), Citigroup (NYSE:C) และ Morgan Stanley (NYSE:MS) ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1%
ในขณะเดียวกัน หุ้นเทคโนโลยีได้ปรับตัวลงอีกวัน แม้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรจะยังคงต่ำอยู่ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อและการเติบโตอาจถึงจุดสูงสุดแล้ว
ราคาหุ้นAlphabet Inc Class A (NASDAQ:GOOGL),Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT), Apple Inc (NASDAQ:AAPL), Facebook Inc (NASDAQ:FB)) และ Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN)) ส่วนใหญ่ปรับตัวลง
“ตลาดพันธบัตรกำลังบ่งชี้ว่า การเติบโตกำลังชะลอตัวจากข้อมูลตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดที่ค่อนข้างต่ำ” เรการ์ดกล่าว “ผมไม่ได้บอกว่าเราจะไม่เห็นตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนที่น่าประหลาดใจ แต่ผมเชื่อว่าอัตราการเติบโตถึงจุดสูงสุดแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ตลาดโดยรวมจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี ด้วยผลผลิตของบริษัทต่าง ๆ ที่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันรายได้ให้สูงขึ้นตามไปด้วย
ผมคิดว่าตลาดจะค่อย ๆ ขยับตัวสูงขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของรายรับและกระแสเงินสดของบริษัทต่าง ๆ เรการ์ดกล่าว ผลกระทบจากการระบาดของโควิดและการขาดแคลนแรงงานทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องใช้เงินไปกับเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงระบบอัตโนมัติเพื่อขับเคลื่อนการเพิ่มผลผลิต ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรและการเติบโตของรายได้ในท้ายที่สุด
“บริษัทต่าง ๆ กำลังหาวิธีจัดสรรเงินทุนซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ได้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีและคืนทุนเร็วขึ้น” เรการ์ดกล่าวเสริม นี่เป็นวิธีเพิ่มอัตรากำไรของพวกเขา ซึ่งจะช่วยชดเชยปัญหาเงินเฟ้อและการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่คาดการณ์ไว้
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
FOREX.com
OANDA
Vantage
IC Markets Global
STARTRADER
TMGM
FOREX.com
OANDA
Vantage
IC Markets Global
STARTRADER
TMGM
FOREX.com
OANDA
Vantage
IC Markets Global
STARTRADER
TMGM
FOREX.com
OANDA
Vantage
IC Markets Global
STARTRADER
TMGM