简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาของ BTC นั้นดูเหมือนว่าจะมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเช้ามืดของวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ร่วงลงไปแตะระดับที่ทำให้นักเทรดต้องไม่ปลื้มเท่าไรนัก
ราคาของ BTC นั้นดูเหมือนว่าจะมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเช้ามืดของวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ร่วงลงไปแตะระดับที่ทำให้นักเทรดต้องไม่ปลื้มเท่าไรนัก กราฟ BTCUSD เผยให้เห็นว่าราคาของ BTC นั้นได้พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันนี้ที่ 34,989 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงมาอยู่ที่ 34,7595 ดอลลาร์ในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ไม่มีใครรู้แน่ชัดถึงสาเหตุการพุ่งขึ้นของราคา แต่คาดการณ์ว่าอาจจะเป็นผลมาจากกลไกของตลาดที่มีการซื้อขายเกิดขึ้นจริง และสถิติที่ผ่านมานั้นตลาดมักจะซบเซาในวันหยุด
แต่เริ่มจะกระเตื้องในวันจันทร์นั่นเอง เมื่อวานนี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่าแรงขุดของ Bitcoin ในเครือข่ายนั้นได้แตะจุดต่ำสุดในรอบ 13 เดือน หลัก ๆ นั้นมาจากการแบนการขุดของจีนนั้นดูเหมือนว่าจะสร้างความเสียหายในวงการคริปโตในประเทศอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าจีนนั้นเป็นผู้นำในด้านแรงขุด Bitcoin ในเครือข่าย hashrate หรืออัตราแรงขุดเปรียบเสมือนตัวชี้วัดความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับบล็อคเชน ยิ่งเครือข่ายมีพลังแรงขุดมากเท่าไร ความสามารถในการป้องกันการโจมตีโดยรวมก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งอัตราการแฮชที่ลดลงนั้นเป็นผลมาจากการห้ามการขุด bitcoin ของจีนเมื่อเร็วๆ นี้ สิ่งนี้ดูเหมือนว่าจะส่งผลต่อราคาในตลาดของ BTC ก่อนหน้านี้ เนื่องจากว่านักขุดนั้นต้องทำการเทขายเหรียญออกไปในตลาดเพื่อใช้เป็นต้นทุนในการย้ายเหมืองขุด และรวมถึงเพื่อ cover loss จากธุรกิจของพวกเขาอีกด้วย
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทวิเคราะห์ Bitcoin
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
บทวิเคราะห์บิตคอยน์
บทวิเคราะห์บิตคอยน์
Tickmill
IC Markets Global
FBS
EC Markets
TMGM
HFM
Tickmill
IC Markets Global
FBS
EC Markets
TMGM
HFM
Tickmill
IC Markets Global
FBS
EC Markets
TMGM
HFM
Tickmill
IC Markets Global
FBS
EC Markets
TMGM
HFM