ดอลลาร์อ่อนลง ท่ามกลางสัญญาณชะลอตัวเศรษฐกิจจีน

เช้านี้ดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่มีการซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองเดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจอันหลากหลายของจีนและข้อมูลเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งจากสหรัฐใ นขณะเดียวกันก็คาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลดสัดส่วนการซื้อสินทรัพย์

ข้อมูลที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ของจีนอยู่ที่ 51.0 และ PMI นอกภาคการผลิต อยู่ที่ 55.0 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งทั้งสองตัวเลขอยู่เหนือระดับ 50 แสดงถึงการเติบโต อย่างไรก็ตาม PMI ภาคการผลิตต่ำกว่าระดับ 51.1 ซึ่งเป็นตัวเลขที่คาดการณ์โดย Investing.com และตัวเลขของเดือนเมษายน

ในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลระบุว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเมษายน ซึ่งสูงกว่า 2.9% ที่คาดการณ์โดย Investing.com และ 1.9% ในช่วงก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดและมากที่สุดประจำปี นับตั้งแต่ปี 1992 เนื่องจากการฟื้นตัวของประเทศและการหยุดชะงักของอุปทานต่าง ๆ

“หากเราเห็นอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงเกิน 2% อย่างต่อเนื่อง นั่นอาจสร้างแรงกดดันต่อค่าจ้างสูงขึ้น ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูงเกินคาด” มาซาฟูมิ ยามาโมโต้ หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านสกุลเงินของ Mizuho Securities กล่าวกับรอยเตอร์

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างคาดว่า เฟดจะคงนโยบายการเงินในปัจจุบันต่อไปอีกจนถึงสิ้นปี

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงเหลือ 1.581% ซึ่งเป็นเดือนที่สองของการลดลงหลังจากที่พุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของเฟดคนสำคัญ รวมถึงริชาร์ด คลาริดา รองประธานเฟด ได้กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เฟดอาจเริ่มหารือการลดสัดส่วนสินทรัพย์หากอัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้น

ขณะนี้นักลงทุนต่างเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมของสหรัฐ ซึ่งรวมถึง ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร และ อัตราการว่างงาน ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์ เพื่อคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ