简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เรามักพูดเสมอว่า ‘การพนัน’ กับ ‘การลงทุน’ มันไม่ใช่สิ่งเดียวกัน และนักพนันก็ไม่ใช่นักลงทุน แต่ในโลกนี้มีชายคนหนึ่งที่ทำได้ดีทั้งสองอย่าง เขาคือเซียนไพ่ที่ได้กำไรมหาศาล และเป็นเซียนหุ้นแนวหน้าของโลกที่สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 15.1% ต่อปี ต่อกัน 19 ปี ‘Edward O. Thorp’ คน ๆ นี้ทำได้อย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้
เรามักพูดเสมอว่า ‘การพนัน’ กับ ‘การลงทุน’ มันไม่ใช่สิ่งเดียวกัน และนักพนันก็ไม่ใช่นักลงทุน แต่ในโลกนี้มีชายคนหนึ่งที่ทำได้ดีทั้งสองอย่าง เขาคือเซียนไพ่ที่ได้กำไรมหาศาล และเป็นเซียนหุ้นแนวหน้าของโลกที่สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 15.1% ต่อปี ต่อกัน 19 ปี ‘Edward O. Thorp’ คน ๆ นี้ทำได้อย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้
Edward O. Thorp คือชาวอเมริกัน วัย 89 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาคณิตศาสตร์ในปี 1958 หลังจากเรียนจบเขาย้ายไปทั่วประเทศ และเริ่มทำงานที่ Massachusetts Institute of Technology (MIT) ซึ่งบังเอิญได้ก่อตั้งทีม MIT Blackjack Thorp ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์คนแรกที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวเม็กซิโก ช่วงที่เขาอยู่ที่รัฐนิวเม็กซิโก Thorp ได้ฟังเพื่อนร่วมงานพูดคุยว่าทำไมนักพนันถึงเอาชนะเจ้ามือไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจที่จะทดสอบทฤษฎีนี้
ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ IBM 704 Thorp เริ่มศึกษาความน่าจะเป็นของแบล็คแจ็ค ด้วยแรงบันดาลใจจากเกณฑ์ของ Kelly ในที่สุดเขาก็ได้พัฒนารูปแบบการนับไพ่และการเดิมพันที่สามารถเอาชนะเกมได้
Thorp พัฒนา “Thorp Count” ซึ่งสามารถทำให้ผู้เล่นได้เปรียบในเกมแบล็คแจ็คสำรับเดี่ยว ในเวลานั้นแบล็คแจ็คสำรับเดี่ยวมีให้บริการอย่างกว้างขวางในเนวาดา ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปเนวาดากับแมนนี่ คิมเมล นักพนันมืออาชีพและอดีตเจ้ามือรับแทง พวกไปที่คาสิโนใน Lake Tahoe และ Reno เป็นครั้งแรกโดยได้รับผลกำไร 11,000 ดอลลาร์
ในปี 1962 เขาได้เขียนตำรา ‘Beat the Dealer’ ซึ่งสอนมือสมัครเล่นว่าพวกเขาจะทำกำไรจากแบล็คแจ็คได้อย่างไร Beat the Dealer กลายเป็นหนังสือขายดีของ New York Times ทันทีหลังจากขายได้ 700,000 เล่มและต่อมา Thorp พบว่าตัวเองโดนเหล่ากาสิโนทั่วประเทศสั่งแบนไม่ให้เขาเข้าไปเล่นอีกเลย เรื่องนี้โด่งดังจนขนาดที่ว่าคณะกรรมการกลางของรัฐต้องเปลี่ยนกฎการแจกไพ่ใหม่ เพื่อป้องกันกลยุทธ์ดังกล่าว ที่จะสร้างผลกระทบให้กับธุรกิจกาสิโนทั่วประเทศและนั่นจึงทำให้ Thorp หยุดพักจากโลกการพนันเข้ามาสู่โลกการลงทุนแทน
ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 Thorp ได้ใช้ความรู้เกี่ยวกับความน่าจะเป็นและสถิติในตลาดหุ้น โดยได้ค้นพบและใช้ประโยชน์จากความผิดปกติของการกำหนดราคาในตลาดหลักทรัพย์ และเขาก็ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ โดยได้ตั้งกองทุนป้องกันความเสี่ยง Convertible Hedge Associates (ภายหลังในปี 1974 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Princeton Newport Partners (PNP) ที่นักเก็งกำไรสาย Quant ส่วนใหญ่รู้จักกันดี) โดยเขาได้เลือกใช้กลยุทธ์แบบ Market Neutral หรือการถือทั้ง 2 สถานะทั้งฝั่งซื้อ (Long) และฝั่งขาย (Short) เพื่อลดความผันผวนของการลงทุนให้น้อยกว่าตลาดผสมเข้ากับหลักเกณฑ์ของ Kelly ในการหาขนาดการลงทุนที่เขาเคยนำไปปรับใช้กับการพนัน
นั่นทำให้ Thorp กลายเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อแวดวงกองทุนเฮดจ์ฟันด์
อดีตศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์คนนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าทักษะของเขาก้าวไปไกลกว่าศิลปะการพนัน เขายังประสบความสำเร็จในการบริหารกองทุนป้องกันความเสี่ยงเป็นเวลาสองทศวรรษซึ่งให้ผลตอบแทนเกือบ 20% ต่อปี ปัจจุบันชายวัย 89 คนนี้ก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในโลกแห่งการเทรด หลังจากประสบความสำเร็จในการเทรดมานานกว่า 30 ปีปัจจุบันเขามีมูลค่าถึง 800 ล้านดอลลาร์ (2.5 หมื่นล้านบาท) WikiFX มีเรื่องราวและเทคนิคดี ๆ จากนักลงทุนไทย และต่างประเทศมาให้คุณได้อ่านทุกวัน มารับแรงบันดาลใจเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนักลงทุนที่ดีกันนะ โหลด WikiFX เพื่อติดตามสิ่งเหล่านี้ได้ฟรี!!!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
STARTRADER
Vantage
FxPro
Octa
Pepperstone
HFM
STARTRADER
Vantage
FxPro
Octa
Pepperstone
HFM
STARTRADER
Vantage
FxPro
Octa
Pepperstone
HFM
STARTRADER
Vantage
FxPro
Octa
Pepperstone
HFM