简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทเรียนราคาแพง "H&M" ปมแบนใช้ฝ้ายซินเจียง ขณะ H&M ยืนยันพันธะสัญญาและความร่วมมือระหว่างบริษัทกับจีนยังคงเหนียวแน่น บริษัทยังคงมุ่งมั่นฟื้นความเชื่อใจและความมั่นใจของผู้บริโภค ผู้ร่วมงาน และหุ้นส่วนในจีน
H&M ผู้ผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสัญชาติสวีเดน และยักษ์ใหญ่ค้าปลีกสินค้าแฟชั่นอันดับสองของโลก ผู้จุดชนวนการแบนฝ้ายซินเจียงจนนำไปสู่การแก้แค้นของลูกค้าชาวจีน และเรื่องนี้ลามไปเป็นประเด็นระหว่างประเทศ เป็นความขัดแย้งของชาติตะวันตกและจีน จากปมการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ที่มีอยู่นานแล้ว แต่ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง
ผลพวงที่H&M ได้รับคือการขาดทุนย่อยยับในไตรมาสแรก โดย H&Mรายงานผลประกอบการช่วงเดือนธ.ค.-ก.พ. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีการเงินบริษัทว่าขาดทุน 1,390 ล้านโครนา ( 159 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)เทียบกับปีก่อนหน้านี้ที่มีกำไรอยู่ที่ 2,500 ล้านโครนา หลังจากถูกลูกค้าชาวจีนเปิดศึกโต้กลับกรณีที่บริษัทประกาศไม่ใช้ฝ้ายจากซินเจียงที่ใช้แรงงานทาสชาวอุยกูร์
นอกจากขาดทุนแล้ว H&Mยังปิดสาขาจำนวนมากในหลายประเทศก่อนหน้านี้ จากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทลดลง 2% ในการซื้อขายวันพฤหัสบดี(1เม.ย.)
ที่ผ่านมา สหประชาชาติ (ยูเอ็น)ยืนยันว่ามีชาวอุยกูร์อย่างน้อย 1 ล้านคนถูกกักตัวไว้ในค่ายเพื่อปรับทัศนคติและมีการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ในโรงงานสิ่งทอ ทั้งยังมีการละเมิดความเป็นส่วนตัวในหลายรูปแบบตั้งแต่ติดตั้งแอพพลิเคชันส่งข้อความที่เข้ารหัสทางโทรศัพท์ เพื่อดูเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนา การล่วงละเมิดทางเพศ และการสังหารหมู่
ในส่วนของรัฐบาลจีน ปฏิเสธข้อกล่าวหาต่าง ๆ พร้อมยืนยันว่าค่ายดังกล่าวเป็นโรงเรียนฝึกหัดอาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการบรรเทาความยากจนของประเทศเท่านั้น
แต่H&M แถลงในเว็บไซต์ของบริษัทว่า พันธะสัญญาและความร่วมมือระหว่าง H&M กับจีนยังคงเหนียวแน่น บริษัทยังคงมุ่งมั่นเพื่อฟื้นความเชื่อใจและมั่นใจกับผู้บริโภค ผู้ร่วมงาน และหุ้นส่วนในจีนให้กลับมาอีกครั้ง เพื่อเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค และเคารพซึ่งกันและกัน
ในแถลงการณ์ล่าสุดของ H&M ไม่ได้ระบุถึงประเด็นซินเจียงอุยกูร์แต่อย่างใด แต่จีนเป็นตลาดใหญ่อันดับ 4 ของ H&M และเป็นแหล่งวัตถุดิบอันดับหนึ่งของบริษัท
บรรดานักวิเคราะห์ มีความเห็นว่า การที่สหรัฐ แคนาดา อังกฤษ และสหภาพยุโรป(อียู)คว่ำบาตรจีนกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ เป็นแค่การแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์เป็นส่วนใหญ่ และคาดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและพฤติกรรมของจีนมากนัก เพราะจีนเป็นผู้ผลิตฝ้ายที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก และที่สำคัญชาวจีนมีกำลังซื้อมหาศาล และเป็นตลาดใหญ่ การทิ้งตลาดนี้ จึงไม่น่าจะเป็นไปได้
จุดจบของเรื่องนี้ น่าจะเป็นไปในทำนองเดียวกับที่นักวิเคราะห์มอง อำนาจเงินตราน่าจะมีชัยเหนือจุดยืนในการดำเนินธุรกิจ เพราะหลังจากเจอกระแสต้านจากลูกค้าชาวจีนอย่างต่อเนื่อง H&M และอีกหลายแบรนด์ก็พยายามพลิกสถานการณ์โดยเร็ว ทำให้ไม่พบข้อความในเว็บไซต์ของแบรนด์เกี่ยวกับการต่อต้านฝ้ายซินเจียงอีกเลย อย่างกรณีแบรนด์แฟชั่นอย่างซาราของสเปน ที่ตอนแรกมีแถลงการณ์ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการใช้แรงงานทาสในซินเจียง หรือกรณีฮิวโก บอสส์จากเยอรมนี ที่ไม่ได้เลิกใช้ฝ้ายผลิตสินค้า และยังคงสนับสนุนฝ้ายจากซินเจียงต่อ
นี่คือทางเลือกในการกอบกู้วิกฤติของแบรนด์ดัง เนื่องจากเดิมพันคือรายได้จากตลาดจีน ที่ถือเป็นตลาดใหญ่หล่อเลี้ยงธุรกิจ โดย H&M มีรายได้จากตลาดจีนในปี 2562 มูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์ มากเป็นอันดับ 3 รองจากเยอรมนี และสหรัฐ
ขอขอบคุณบทความจาก Bangkokbiz
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
HFM
OANDA
FOREX.com
EC Markets
IC Markets Global
STARTRADER
HFM
OANDA
FOREX.com
EC Markets
IC Markets Global
STARTRADER
HFM
OANDA
FOREX.com
EC Markets
IC Markets Global
STARTRADER
HFM
OANDA
FOREX.com
EC Markets
IC Markets Global
STARTRADER