5 ปัจจัยที่ต้องจับตา เกิดอะไรขึ้นในตลาดการเงินสัปดาห์นี้?

เยลเลนลดความกลัวเงินเฟ้อ

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพยายามวางกรอบการอภิปรายครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับเงื่อนไขของเธอเอง โดยบอกกับ ABC ว่า “สัปดาห์นี้” ความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อนั้นเป็นเรื่อง “เล็กน้อย” และ “จัดการได้”

“ฉันไม่คิดว่ามันเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ” เยลเลนกล่าว “ และหากเกิดขึ้นจริงเราจะตรวจสอบอย่างแน่นอน แต่เรามีเครื่องมือที่จะจัดการกับมัน”

ความคิดเห็นของเยลเลน เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์สำคัญสำหรับการประชุมของธนาคารกลาง โดยมีกำหนดเผยนโยบายจากธนาคารกลางสหรัฐในวันพุธที่ผ่านมา ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางญี่ปุ่น ทั้งสองได้มีการประชุมนโยบายในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ตามลำดับ แอนดรูว์ เบย์ลี่ ผู้ว่าการ BoE กล่าวกับ BBC เมื่อวันจันทร์ว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นมากเกินไป

ผู้ที่มองหาปฏิกิริยาที่แท้จริงต่อการปรับตัวขึ้นของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อควรติดตามธนาคารกลางของบราซิลในวันพุธ ธนาคารกลางของตุรกีในวันพฤหัสบดี และของรัสเซียในวันศุกร์

2. ข้อมูลจีนแข็งแกร่ง เคส Xiaomi อาจช่วย ADRs

ตัวเลขข้อมูลรายเดือนของจีนแสดงให้เห็นว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามที่คาดไว้จากปีที่แล้ว ผลผลิตเพิ่มขึ้น 35% ในสองเดือนแรกของปี 2564 เมื่อเทียบกับฐาน สะท้อนให้เห็นถึงการหยุดชะงักของจีน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน

ด้านข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับจีน ADR ของจีนอาจได้รับการสนับสนุนในภายหลังจากชัยชนะทางกฎหมายของ Xiaomi ผู้ผลิตโทรศัพท์ต่อความพยายามของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่ห้ามนักลงทุนสหรัฐถือหุ้นบริษัท

ผลกระทบพื้นฐานยังส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของราคาขายส่งของเยอรมนีกลับมาเป็นบวกเป็นครั้งแรกในรอบปี

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ข้อมูลจะปรับเปลี่ยนอย่างรุนแรงเนื่องจากความต้องการและราคาที่บิดเบือนอย่างมาก ซึ่งเกิดจากการหยุดชะงักในสหรัฐฯและยุโรปเมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นข้อมูลการเปลี่ยนแปลงเดือนต่อเดือนอาจมีความสำคัญสำหรับนักลงทุนมากขึ้น

3. หุ้นปรับตัวสูงขึ้น ดาวโจนส์บันทึกสถิติใหม่

หุ้นสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเปิดสูงขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีหลังจากการแทรกแซงของ เยลเลนในช่วงสุดสัปดาห์

ภายในเวลา 6:45 น. ET (1145 GMT) ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 122 จุดหรือ 0.4% ปิดสูงเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์ส S&P 500 และ แนสแด็ก 100 มีความล่าช้าเล็กน้อยโดยเพิ่มขึ้น 0.2%

หุ้นที่อิงกับ Bitcoin มีแนวโน้มที่จะถูกโฟกัสในภายหลัง หลังจากที่สกุลเงินดิจิทัลทำสถิติสูงสุดใหม่กว่า 61,000 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากที่ Beeple ขายงานศิลปะของเค้าได้กว่า 60 ล้านเหรียญ โดยใช้ Ethereum

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับ DraftKings หลังจากที่คู่แข่ง Flutter Entertainment ซึ่งเป็นเจ้าของ บริษัท FanDuel ซึ่งตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักรกล่าวว่ากำลังดูรายชื่อธุรกิจ

4. วัคซีน AstraZeneca ถูกตีกลับ

ผลักดันกลับในช่วงสุดสัปดาห์เนื่องจากความกลัวที่เพิ่มมากขึ้นว่าวัคซีน Covid-19 ตัวดังกล่าวอาจทำให้เกิดปัญหาการแข็งตัวของเลือด

บริษัทกล่าวในแถลงการณ์ว่ามีการให้ยามากกว่า 17 ล้านโดสในยุโรปและสหราชอาณาจักรโดยไม่มีหลักฐานเพิ่มว่าจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด

จากข้อมูลของ Bloomberg เมื่อวันที่ 8 มีนาคมมีรายงานการอุดตันที่ขา 15 รายและ 22 รายที่ไปถึงปอดหรือที่เรียกว่า pulmonary embolism เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเนเธอร์แลนด์และไอร์แลนด์ได้เข้าร่วมในรายชื่อประเทศที่ระงับการแจกจ่ายวัคซีนชนิดนี้ ในขณะเดียวกันสหภาพยุโรปยังคงกดดันให้สหรัฐฯปล่อยตัวยาที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯยังไม่อนุมัติ

5. Technoking และ Master of Coin

CEO อีลอน มัสก์ ยังคงมีอิทธิพลกับตลาดคริปโต โดยใช้ชื่อใหม่ตรงจากศัพท์ของ Reddit

ในแถลงการณ์ต่อตลาดหลักทรัพย์ Tesla กล่าวว่า: “มีผลตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2564 ชื่อของ Elon Musk และ Zach Kirkhorn ได้เปลี่ยนเป็น Technoking of Tesla และ Master of Coin ตามลำดับ นอกจากนี้ อีลอนและแซคจะยังคงดำรงตำแหน่งในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ตามลำดับ”

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน