3 ปัจจัยที่ต้องจับตา สำหรับนักลงทุนในสัปดาห์นี้

โดย Christiana Sciaudone

Investing.com - ต้องขอบคุณซาอุดีอาระเบีย ที่ทำให้ตลาดปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น หลังจากประเทศในตะวันออกกลางประกาศว่าจะสมัครใจลดกำลังการผลิตเพื่อชดเชยการผลิตที่เพิ่มขึ้นของรัสเซียและคาซัคสถาน

ราคาน้ำมันดิบ ทะลุแนวต้าน 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน

Boeing(NYSE: BA) ปรับตัวบวกสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ในส่วนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี Micron (NASDAQ: MU) เห็นจุดสูงสุดในรอบ 20 ปีหลังจาก Citi ช่วยทำให้ราคาพุ่งไปที่ 100 ดอลลาร์จาก 35 ดอลลาร์

Bitcoin พุ่งขึ้นใกล้ทำสถิติสูงสุดในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนซื้อขายกันอยู่ ราคาปรับลดลงในวันจันทร์ ในช่วงต้น Bitcoin ซื้อขายอยู่ในช่วง 33,000 ดอลลาร์และหากการคาดการณ์ของ JPMorgan (NYSE: {267 | JPM}}) ถูกต้อง ราคาจะพุ่งไปที่ 146,000 ดอลลาร์ เทียบเคียงกับทองคำ

และนี่คือ 3 ปัจจัยที่มีผลกับตลาดในช่วงนี้

1. ทิศทางของการเลือกตั้งในจอร์เจีย

นักลงทุนลุ้นว่าใครชนะการเลือกตั้งโวุฒิสภาในจอร์เจีย และพรรคใดจะได้คุมอำนาจในสภาคองเกรส ตลาดและประเทศอื่น ๆ เฝ้าจับตาว่ามิทช์ แม็คคอนเนลล์และพรรครีพับลิกัน หรือ ชัค ชูเมอร์ จะได้เก้าอี้ไปและให้พรรคเดโมแครตมีอำนาจเหนือรีพับลิกัน

2. ข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงปีใหม่

ตัวเลขรายงานตลาดในสหรัฐที่กำลังจะมาถึงในวันศุกร์นี้ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร รายงานงานในเดือนธันวาคม ADP คาดว่าจะมีงานเพิ่มขึ้น 88,000 ตำแหน่ง ในเวลา 8:15 น. ET (1215 GMT) นอกจากนี้ยังมี รายงานปริมาณการยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย , Markit PMI และ factory และ ครุภัณฑ์

3. สถานการณ์ล็อคดาวน์หลายพื้นที่ในประเทศไทย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการระบาดครั้งใหญ่เริ่มต้นที่สมุทรสาคร ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมถึง 8,966 คน โดยเพิ่มขึ้น 527 คนจากวันก่อนหน้า แต่ในขณะเดียวกันSETมีการปรับตัวสูงขึ้น 38 จุด รับแรงซื้อกลุ่มพลังงาน-DELTA ดันมูลค่าทะลุ 1.15 แสนล้านบาท ทะลุ 1,500 จุด ปิดตัวที่ 1,506 ในวันจันทร์ นักลงทุนยังคงจับตากระแสล็อคดาวน์รอบใหม่ที่มีความเข้มงวดลดลงจากการปิดล็อคดาวน์รอบก่อนว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดรุนแรงหรือไม่