简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:วัดความน่าเชื่อถือโพลสหรัฐ โดย"ไบเดน"มีคะแนนนิยมนำ"ทรัมป์"อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) ไบเดน มีคะแนนนำทรัมป์มาตลอดเฉลี่ยแล้วไม่เคยต่ำกว่า 4%"
ตอนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อ 4 ปีก่อน ทั้งๆ ที่ฮิลลารี คลินตันมีคะแนนนำมาในทุกโพล ทำให้เกิดคำถามที่ไม่เคยมีมาก่อนถึงความน่าเชื่อถือของผลการสำรวจความคิดเห็น ที่ปีนี้ก็มีคำถามแบบเดียวกันว่า โพลเชื่อถือได้หรือไม่
16 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง3 พ.ย. เว็บไซต์เรียลเคลียร์โพลิติกส์ รายงานว่า โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำประธานาธิบดีทรัมป์จากพรรครีพับลิกันเฉลี่ยทั่วประเทศ 9% แต่การเลือกตั้งสหรัฐนั้นคนที่จะคว้าชัยชนะเข้าไปนั่งในทำเนียบขาวไม่ใช่เพราะคะแนนจากประชาชน (ป็อปปูลาร์โหวต) แต่เป็นคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง
ปี 2559 ทรัมป์ได้ป็อปปูลาร์โหวตน้อยกว่าคลินตัน แต่ได้เสียงคณะผู้เลือกตั้งมากพอได้เป็นประธานาธิบดี ในปีนี้มี 6 รัฐสำคัญสำหรับเส้นทางสู่ทำเนียบขาว ได้แก่ ฟลอริดา นอร์ทแคโรไลนา แอริโซนา วิสคอนซิน เพนซิลเวเนีย และมิชิแกน
แต่ถ้าโพลถูกต้อง ไบเดนล้วนได้เปรียบในทุกรัฐที่ว่ามา แม้การนำของเขา 1.7% ที่ฟลอริดา ไปจนถึง 7.2% ในมิชิแกน ยังอยู่ในโอกาสของความผิดพลาดได้
ปี 2559 โพลที่ทำก่อนวันเลือกตั้งทำนายได้ถูกต้องว่า คลินตันมีคะแนนนำทั่วประเทศเล็กน้อย “แต่โพลผิดพลาดในบางรัฐที่เป็นสวิงสเตทแถบมิดเวสต์ ที่ทรัมป์ชนะในที่สุด” คริส แจ็คสัน จากสำนักโพล “อิปซอส พับลิก แอฟแฟร์ส” กล่าวกับเอเอฟพี พร้อมเสริมว่า สาเหตุความผิดพลาดส่วนหนึ่งมาจากโพลไม่ได้สอบถามคนขาวผู้ไม่จบปริญญาตรี ซึ่งเป็นกลุ่มคนเลือกทรัมป์
ปีนี้สำนักโพลส่วนใหญ่กล่าวว่า ได้แก้ไขระเบียบวิธีที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเช่นนั้นแล้ว สวิงสเตท (รัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของฝ่ายใด) ที่เก็บข้อมูลน้อยในครั้งก่อน ปีนี้ถูกสำรวจใกล้ชิดและบ่อยขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นคนทำโพลยังตั้งข้อสังเกตต่อเนื่องว่า ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์มาตลอดเฉลี่ยแล้วไม่เคยต่ำกว่า 4% เทียบกับโพลทรัมป์-คลินตัน ที่ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะสองครั้งชี้ว่าการแข่งขันไม่แน่นอน
สุดท้ายแล้วในประเทศที่แตกต่างกันสุดขั้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจ ซึ่งเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งได้ในนาทีสุดท้ายลดน้อยลงมาก
บางคนรู้สึกว่าคนที่เลือกทรัมป์ไม่ยอมบอกโพลว่าชอบทรัมป์ เนื่องจากมีข้อครหามากมายเกี่ยวกับประธานาธิบดี
“คราวที่แล้วโพลผิด คราวนี้ยิ่งผิดหนักขึ้นไปอีก” ทรัมป์กล่าว ซึ่งทราฟัลการ์กรุ๊ป สำนักโพลที่พรรครีพับลิกันชื่นชอบเพราะพยายามใช้ระเบียบวิธีวัดความเป็นไปได้ของการสงวนท่าที เป็นหนึ่งในโพลไม่กี่สำนักเมื่อปี 2559 ที่ทายว่าทรัมป์ชนะในรัฐเพนซิลเวเนียและมิชิแกน
แต่คราวนี้แม้แต่ทราฟัลการ์กรุ๊ปก็ยังให้ไบเดนนำในรัฐสำคัญอย่างเพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน นักธุรกิจที่เพิ่งลงเล่นการเมืองอย่างทรัมป์เป็นคนหน้าใหม่ ผู้สมัครเช่นนี้สำนักโพลย่อมประเมินได้ยาก
“ตอนนี้ใครๆ ก็แสดงความเห็นเกี่ยวกับเขา ไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์สำหรับโดนัลด์ ทรัมป์เหมือนตอนนั้นอีกแล้ว” แจ็คสันกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สคำนวณว่า ต่อให้โพลปัจจุบันที่สำรวจรัฐต่อรัฐประเมินผิดเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อน ไบเดนก็ยังชนะอยู่ดี
“โพลของเราเฉลี่ยแล้วไบเดนมีโอกาสชนะมากกว่าในรัฐเท็กซัส ซึ่งจะทำให้เขามีคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งกว่า 400 เสียง มากกว่าที่ทรัมป์ชนะในสวิงสเตทดั้งเดิมอย่างเพนซิลเวเนียและเนวาดา” เนต โคห์น เขียนลงนิวยอร์กไทม์สเมื่อเร็วๆ นี้
กระนั้นสำนักโพลและนักวิเคราะห์ไม่วายเตือนว่า เจตจำนงของผู้เลือกตั้งไม่ใช่การคาดคะเน และความผิดพลาดก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้
อีก 16 วันก่อนวันเลือกตั้งเมื่อปี 2559 เว็บไซต์ 538 ให้คลินตันมีโอกาสชนะ 86% เกือบใกล้เคียงกับไบเดนตอนนี้
ในสหรัฐการลงทะเบียนเลือกตั้งแตกต่างกันมาก จึงยากจะทำนายจำนวนคนออกมาใช้สิทธิ
ส่วนทรัมป์ชี้ว่า กองเชียร์ผู้กระตือรือร้นมาฟังเขาหาเสียงแสดงว่ากระแสอยู่ข้างเขา แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าคนเหล่านั้นไปลงคะแนนเลือกทรัมป์
แล้วสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ไม่ค่อยตื่นเต้นกับคลินตันมากนัก ทั้งๆ ที่ตอนแรกถูกมองว่ามีโอกาสชนะเลือกตั้งมากกว่าทรัมป์ คนเหล่านี้จะออกมาเลือกไบเดนเพื่อไล่ทรัมป์จริงหรือ และการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะมีผลหรือไม่
“เราจะมีคนลงคะแนนทางไปรษณีย์และลงคะแนนล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์ เราไม่ทราบว่าโควิดส่งผลยังไง จริงๆ แล้วมีปัจจัยแทรกซ้อนเข้ามาหลายตัวมาก ล้วนทำให้การทำโพลยากขึ้น” แจ็คสันกล่าวโดยสรุป
โดย Bangkokbiznews
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ระบบโลจิสติกส์ ของโลกที่สะดุดจากโควิด-19ระบาด ทำให้การขาดแคลนอาหารพุ่งสูงโดยเฉพาะสหรัฐฯ โดยสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส ระบุว่า ความต้องการสินค้าเกษตรกลุ่มอาหารมีสูงขึ้นมากอย่างไมเคยพบมาก่อน
ผอ.สถาบัน AFRIMS ออกโรงโต้รายงานชี้ "ห้องทดลองเชื้อโรค" ใหญ่ที่สุดในโลก ซ่อนอยู่ในกรุงเทพฯ ท่ามกลางความสงสัย สหรัฐ - ไทย กำลังร่วมมือวิจัยวัคซีนสู้โควิด
วุฒิสภาสหรัฐลงมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และสร้างงานครั้งใหญ่ให้แก่ชาวอเมริกัน
วุฒิสภาสหรัฐ มีมติด้วยคะแนนเสียง 67 ต่อ 27 เดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปสู่การผ่านความเห็นชอบในขั้นสุดท้าย