简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:โดยปกติแล้ว ธุรกิจโบรกเกอร์จะมีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากเป็นเพียงตัวกลางระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ตราบใดที่มีปริมาณซื้อขายเพียงพอ ผู้ประกอบการที่เป็นโบรกเกอร์ ก็คงไม่ล้มหายตายจากไปไหน แต่มีโบรกเกอร์รายหนึ่งชื่อ “Knight Capital” กลับต้องเผชิญเหตุการณ์ที่ทำให้ขาดทุนถึงหมื่นล้านบาท ภายในเวลาแค่ 45 นาที
Knight Capital ประกอบธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์
ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1995 หรือเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
บริษัทถือเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรม
รับผิดชอบการซื้อขาย มูลค่าเฉลี่ย 655,000 ล้านบาทต่อวัน
ครองส่วนแบ่งสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ แห่งละราว 17%
สาเหตุที่ Knight Capital ได้รับความไว้วางใจ
เนื่องจากมีระบบซื้อขายประสิทธิภาพสูง สามารถส่งคำสั่งได้หลายพันรายการต่อวินาที
ชื่อว่า Smart Market Access Routing System (SMARS)
ต่อมาในปี 2012 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ของสหรัฐอเมริกา
กำหนดให้โบรกเกอร์ติดตั้งโปรแกรมใหม่ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายกันตรง โดยไม่ผ่านตลาดหลัก
ชื่อว่า Retail Liquidity Program (RLP)
สิ่งที่ Knight Capital ต้องทำคือ
ลงโปรแกรม RLP เข้าไปในระบบซื้อขาย SMARS ของตัวเอง
แต่แล้วปัญหาที่ไม่คาดคิด ก็เกิดขึ้น
เพราะพนักงานดูแลระบบทำงานผิดพลาด
ลงโปรแกรม RLP ไปแค่ 7 จาก 8 เซิร์ฟเวอร์ของบริษัท
ซึ่งอีก 1 เซิร์ฟเวอร์ที่เหลือ เขาดันไปกดเปิดใช้งาน โปรแกรมเก่าแทน
แต่ทว่าโปรแกรมเก่านั้น กลับเป็น Algorithm ที่มีไว้เพื่อทดสอบพฤติกรรม การไล่ซื้อหุ้นจนราคาแพง หรือถล่มขายจนราคาถูก
เมื่อมันถูกผนึกรวมเข้ากับระบบที่ส่งคำสั่งไปได้หลายพันครั้งในเสี้ยววินาที
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ หายนะ..
ในเช้าวันที่ 12 สิงหาคม 2012 ซึ่งเป็นวันแรกที่เริ่มใช้โปรแกรมใหม่
Knight Capital ได้รับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ 154 บริษัท จำนวน 212 รายการ
ปรากฏว่า คอมพิวเตอร์บนเซิร์ฟเวอร์ที่ลงโปรแกรมผิด ได้ปฏิบัติการตาม Algorithm ที่ถูกตั้งมา
จนเพิ่มคำสั่งซื้อขายเป็น 4 ล้านรายการโดยอัตโนมัติ
และทำให้ราคาหุ้นหลายบริษัท ผันผวนเป็นอย่างมาก
เพียงแค่ 45 นาทีหลังจากเปิดตลาด
Knight Capital ซื้อขายหลักทรัพย์ไปทั้งสิ้น 397 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 218,000 ล้านบาท
และมีผลขาดทุนจากส่วนต่างราคา 13,800 ล้านบาท
ซึ่งถือเป็นความเสียหายที่รุนแรงมาก เมื่อเทียบกับผลประกอบการของปีก่อนหน้า
บริษัทมีรายได้ 43,800 ล้านบาท และกำไร 3,600 ล้านบาท
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ราคาหุ้นของ Knight Capital เอง ก็ถูกเทขาย จนราคาลดลงถึง 75%
แม้อีก 3 วันถัดมา บริษัทจะสามารถเจรจาขอเพิ่มทุนจากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ทำให้ยังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
แต่สิ่งที่เสียหายมากกว่าในระยะยาวคือ ความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อบริษัทได้หายไปในทันที
สุดท้าย 5 เดือนต่อมาหลังจากเหตุการณ์
Knight Capital ก็ถูกซื้อกิจการไปโดยบริษัทคู่แข่งชื่อ Getco
ปิดฉากสิ่งที่สร้างมานานหลายสิบปี จากความผิดพลาดไม่กี่นาที
เรื่องนี้คงจะเป็นบทเรียนที่ดี
จริงอยู่ที่เทคโนโลยีเป็นสิ่งมีประโยชน์ ทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมมาก
แต่ต้องอย่าลืมว่าคนที่ควบคุมออกแบบมันตั้งแต่ต้นคือ มนุษย์
และถ้าหากมนุษย์ควบคุมเทคโนโลยีผิดพลาด
มันก็อาจสร้างความเสียหายมหาศาล
จนถึงขั้นต้องปิดกิจการโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
เหมือนกับกรณีของโบรกเกอร์ Knight Capital..
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
โบรกเกอร์ขอแจกฟรี Iphone 13 Pro ฟรี ฟรี ฟรี! รีบดู เพียงแต่คุณต้องเข้าร่วมการแข่งขันเทรด EA Forex กับ WikiFX
คณะกรรมการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบหลักทรัพย์ของจีน (ซีเอสอาร์ซี) ประกาศห้ามบริษัทโบรกเกอร์ไม่ให้ว่าจ้างอินฟลูเอนเซอร์โซเชียลมีเดียเพื่อดึงดูดลูกค้ารายใหม่ ๆ
ถ้าคุณโดนโบรกเกอร์โกงมา ต้องทำแบบนี้
(FCA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับนโยบายทางด้านการเงินในสหราชอาณาจักรได้ประกาศแบนโบรกเกอร์ BDSwiss Holding Plc และบริษัทในเครือ BDSwiss Group ทั้งหมด
XM
FP Markets
Octa
Vantage
FBS
Pepperstone
XM
FP Markets
Octa
Vantage
FBS
Pepperstone
XM
FP Markets
Octa
Vantage
FBS
Pepperstone
XM
FP Markets
Octa
Vantage
FBS
Pepperstone