简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ในปี 2563 ยังมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อแนวโน้มค่าเงิน เช่น ภาวะเศรษฐกิจจีนที่มีความเสี่ยงมากขึ้น จากการก่อหนี้ในประเทศที่สูงมากอย่างต่อเนื่อง และอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้เสียจำนวนมากได้ หากเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากๆ
ในปี 2563 ยังมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อแนวโน้มค่าเงิน เช่น ภาวะเศรษฐกิจจีนที่มีความเสี่ยงมากขึ้น จากการก่อหนี้ในประเทศที่สูงมากอย่างต่อเนื่อง และอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้เสียจำนวนมากได้ หากเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากๆ ขณะเดียวกันยังมีเรื่องBrexitที่ใกล้กำหนดเส้นตายวันที่ 31 ม.ค.2563 มากขึ้น การเมืองในสหรัฐฯก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีฯปลายปี 2563 รวมทั้งนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญต่างๆ “ซีไอเอ็มบีไทย” คาดว่าสัปดาห์แรกของปี 2563 เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.90-30.40 บาทต่อดอลลาร์ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ ( 27ธ.ค.) ปิดการซื้อขายที่ 1,578.22 จุด ลดลง 0.81 จุด หรือ -0.05% มูลค่าการซื้อขาย 39,967.52 ล้านบาท “บล.โนมูระ พัฒนสิน” ระบุว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ดัชนีมีโอกาสซึมลง ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ (วอลุ่ม) น่าจะเบาบางลง เพราะหยุดยาวช่วงเทศกาลวันปีใหม่ ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการเทรดลง และ คาดว่าภาวะตลาดน่าจะซบเซาจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ โดยให้กรอบดัชนีฯไว้ที่ระดับ 1,570-1,600 จุด
ด้านความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ที่ 1,510.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 21,600 บาทต่อบาททองคำ “วายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล” ระบุว่า การใช้จ่ายในฤดูกาลชอปปิงช่วงวันหยุดวันคริสต์มาส ได้กระตุ้นการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และเพิ่มความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการบริโภคของสหรัฐที่อยู่ในระดับสูงกว่าคาด จนสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคําในฐาสินทรัพย์ปลอดภัย ทําให้อาจเห็นการย่อตัวลงอีกครั้ง หากราคาทองคําอ่อนตัวลง แต่สามารถยืนเหนือแนวรับ 1,495 ดอลลาร์ต่อ
ออนซ์ได้ ราคาจะพยายามปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,514-1,516 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้ อาจโดนแรงขายออกมา ซึ่งนัก
ลงทุนยังคงต้องระมัดระวัง ขณะที่นักลงทุนที่สะสมทองคําไว้อาจมีการขายทํากําไรบางส่วนออกมาบ้าง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก
ตลาดเงินนิวยอร์ก
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก
ในปี 2567 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักหลายสกุล เนื่องจากการคาดการณ์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่ 0.5% ในเดือนกันยายน การลดลงของอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ดอลลาร์มีความน่าสนใจน้อยลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ดอลลาร์อ่อนค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับเงินบาทไทย (THB) ซโลตีโปแลนด์ (PLN) และริงกิตมาเลเซีย (MYR) ขณะที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับลีร่าตุรกี (TRY) และเปโซเม็กซิโก (MXN) ข้อดีคือกระตุ้นการส่งออกและการท่องเที่ยวในสหรัฐฯ แต่ก็เพิ่มค่าใช้จ่ายการเดินทางและการนำเข้าเช่นกัน
VT Markets
Pepperstone
IC Markets Global
STARTRADER
ATFX
FBS
VT Markets
Pepperstone
IC Markets Global
STARTRADER
ATFX
FBS
VT Markets
Pepperstone
IC Markets Global
STARTRADER
ATFX
FBS
VT Markets
Pepperstone
IC Markets Global
STARTRADER
ATFX
FBS